Please use this identifier to cite or link to this item: https://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/1222
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorรัชนี นามจันทรา-
dc.contributor.authorอนงค์นาฏ แพงสุพัด-
dc.date.accessioned2022-08-11T02:19:33Z-
dc.date.available2022-08-11T02:19:33Z-
dc.date.issued2558-
dc.identifier.urihttps://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/1222-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (พย.ม. (การพยาบาลผู้ใหญ่)) -- มหาวิทยาลัยรังสิต, 2558en_US
dc.description.abstractการศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง ศึกษากลุ่มเดียววัดก่อนและหลังการทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการปฏิสัมพันธ์อย่างมีเป้าหมายต่อพฤติกรรมสุขภาพและระดับความดันโลหิตของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง กลุ่มตัวอย่างเลือกอย่างเจาะจงจากผู้ป่วยที่มารับบริการที่คลินิกโรคเรื้อรัง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเหล่าใหญ่ อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร ที่คัดกรองโอกาสเสี่ยงเบื้องต้นต่อการเกิดอัมพฤกษ์และอัมพาตของกระทรวงสาธารณสุข (2550) พบว่ามีความเสี่ยงในระดับปานกลางถึงสูงมากและมีระดับความดันซิสโตลิคมากกว่าหรือเท่ากับ 140 มิลลิเมตรปรอท และ / หรือความดันไดแอสโตลิคมากกว่าหรือเท่ากับ 90 มิลลิเมตรปรอท จำนวน 14 คน กลุ่มตัวอย่างได้รับโปรแกรมการปฏิสัมพันธ์อย่างมีเป้าหมายตามทฤษฎีการบรรลุเป้าหมายของคิง (King, 1981) เป็นเวลา 8 สัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามพฤติกรรมสุขภาพซึ่งประกอบด้วย พฤติกรรมสุขภาพด้านการรับประทานอาหาร ด้านการรับประทานยาและการมาตรวจตามนัด ด้านการออกกำลังกาย ด้านการจัดการความเครียด และด้านการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เก็บข้อมูลก่อนได้รับโปรแกรมฯ และหลังได้รับโปรแกรมฯในสัปดาห์ที่ 8 และ 12 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา Repeated Measures ANOVA และ Friedman’s test ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีคะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมสุขภาพโดยรวมหลังได้รับโปรแกรมการปฏิสัมพันธ์อย่างมีเป้าหมาย ในสัปดาห์ที่ 8 และ 12 สูงกว่าก่อนได้รับโปรแกรมฯ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .001) คะแนนพฤติกรรมสุขภาพด้านการรับประทานอาหาร และด้านการออกกำลังกายในสัปดาห์ที่ 8 และ 12 สูงกว่าก่อนได้รับโปรแกรมฯ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .05, .01 ตามลำดับ) ระดับความดันซีสโตลิคหลังได้รับโปรแกรมฯ ในสัปดาห์ที่ 8 และ 12 ตํ่ากว่าก่อนได้รับโปรแกรมฯ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .01) และหลังได้รับโปรแกรมฯ ในสัปดาห์ที่ 12 ตํ่ากว่าสัปดาห์ที่ 8 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .05) ผลการศึกษาในครั้งนี้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานของพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง เพื่อปรับพฤติกรรมสุขภาพ ควบคุมระดับความดันโลหิต และป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคความดันโลหิตสูงen_US
dc.language.isootheren_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยรังสิตen_US
dc.subjectผู้ป่วย -- การดูแล -- วิจัยen_US
dc.subjectพฤติกรรมการดูแลตนเองen_US
dc.subjectความดันโลหิตสูง -- ผู้ป่วยen_US
dc.titleผลของโปรแกรมการปฏิสัมพันธ์อย่างมีเป้าหมายต่อพฤติกรรมสุขภาพและระดับความดันโลหิตของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงen_US
dc.title.alternativeEffects of transaction program of health behaviors and blood pressure in patients with hypertensionen_US
dc.typeThesisen_US
dc.description.other-abstractThis quasi-experimental research, the one group pre-posttest design, aimed to study the effects of transaction program on health behaviors and blood pressure levels of patients with hypertension. The samples were purposive sampling from the patients who attended the Chronic Disease Clinic, Ban Lao Yai’s Health Promotion Hospital, Mahachanachai District, Yasothon Province. The samples were 14 patients who were at moderate to very high risk screened by the possibility of risk for stroke assessment tool of Ministry of Public Health (2007) and had blood pressure levels > 140/90 mmHg. They had received transaction program developed from King’s theory of Goal Attainment (King, 1981) for 8 weeks. Research instruments for data collection was health behavior questionnaires including eating, adherence to treatment and follow-up, exercise, stress management, and avoiding the risk factors. Health behaviors and blood pressure levels of the samples were collected before receiving the program, and after receiving the program in the 8th and 12th weeks. Data were analyzed using descriptive statistics, repeated measures ANOVA, and Friedman’s test. The results revealed that after receiving the transaction program in the 8th and 12th weeks, the samples had average overall health behaviors’ scores significantly higher than those before the program (p<.001). Eating and exercise behaviors’ scores after receiving the program in the 8th and 12th weeks were significantly higher than those before the program (p<.05, .01 respectively). Systolic blood pressure levels of the samples in the 8th and 12th weeks after the program were significantly lower than those before the program. Systolic blood pressure levels in the 12th week were also significantly lower than those in the 8th week (p < .05).The results of this study provide a guideline of nursing practice in caring for patients with hypertension to adjust their health behaviors, to control their blood pressure levels, and to prevent complications of hypertension.en_US
dc.description.degree-nameพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิตen_US
dc.description.degree-levelปริญญาโทen_US
dc.contributor.degree-disciplineการพยาบาลผู้ใหญ่en_US
Appears in Collections:Nur-Adult-M-Thesis

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Anongnat Phangsuput.pdf7.96 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.