มาตรการในการป้องกันมิให้องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรเป็นแหล่งสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย : ศึกษากรณีมูลนิธิ

Abstract

วิจัยนี้มุ่งศึกษาแนวความคิดและหลักการของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับมาตรการดำเนินการกับทรัพย์สินขององค์กรที่ไม่แสวงหากำไรที่นำมาใช้ในการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายโดยเป็นการวิเคราะห์ประเด็นปัญหาของกฎหมายที่ใช้อยู่ในประเทศไทยว่ายังไม่ครอบคลุมถึงรูปแบบของการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายอันส่งผลให้ผู้ปฏิบัติงานพบอุปสรรคในการป้องกันและปราบปรามองค์กรก่อการร้ายอย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าประเทศไทยจะได้แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเพื่อสร้างมาตรการในการสกัดกั้นการสนับสนุนเงินทุนแก่การก่อการร้ายโดยบัญญัติให้หารกระทำความผิดฐานก่อการร้ายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ.ศ. 2542 เพื่อใช้มาตรการการรายงานการทำธุรกรรมทางการเงินของสถาบันการเงินในการตรวจสอบเส้นทางการเงินแต่ก็ยังไม่เพียงพอ นอกจากนี้ยังศึกษาถึงมาตราการทางกฎหมายที่เกี่ยวกับ การดำเนินการทรัพย์สินขององค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรในประเทศต่างๆ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และนิวซีแลนด์ ผลการศึกษาพบว่า การก่อการร้ายในปัจจุบันมีลักษณะที่เป็นการก่อการร้ายระหว่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ และได้พัฒนารูปแบบการปฏิบัติการที่แตกต่างออกไปจากเดิมถึงการใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยซึ่งส่งผลกระทบกับประชาคมโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในส่วนของประเทศไทยก็ประสบกับเหตุการณ์ไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งนับได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของ การก่อการร้าย แม้รัฐบาลจะได้พยายามแก้ไขปัญหาด้วยวิธิการต่างๆ แต่สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้นมาตรการทางกฎหมายที่นำมาใช้ไม่ว่าจะเป็นประมวลกฎหมายอาญา และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 รวมทั้งกฎหมายภายในของประเทศที่เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการก่อการร้ายยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในเรื่องการตรวจสอบการสนับสนุนทางการเงินที่ใช้ในการก่อการร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพย์สินที่ใช้ในการก่อการร้ายซึ่งอาจมีแหล่งที่มา จากเงินทุนที่ถูกกฎหมายและแหล่งเงินทุนที่ผิดกฎหมายก็ได้เช่น องค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ด้วยเหตุนี้จึงมีความจำเป็นต้องศึกษาพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ.ศ. 2542 และกฎหมายที่เกี่ยวกับองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรเพื่อวิเคราะห์หามาตรการทางกฎหมายที่เหมาะสมมาใช้บังคับให้ครอบคลุมถึงมาตรการต่างๆที่ใช้ในการตรวจสอบเส้นทางการเงินขององค์กรที่ไม่แสวงหากำไรที่ใช้สนับสนุนการก่อการร้าย เพื่อให้ประเทศสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการสกัดกั้น เงินทุนที่นำมาใช้ในการก่อการร้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ผู้เขียนยังเก็บรวมรวบข้อมูลจากการสัมภาษณ์และวิเคราะห์ตัวบทกฎหมายไทยเพื่อนำมาเปรียบเทียบกับบทกฎหมายต่างประเทศดังนั้นผู้วิจัยจึงเสนอแนะให้มีการเพิ่มเติมการตรวจสอบองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรในประเทศไทยโดยการเข้ากำกับดูแลเงินบริจาคเพื่อตัดช่องทางที่จะนำไปสนับสนุนการก่อการร้ายหากมีการตรวจสอบอย่างจริงจรังผู้เขียนเชื่อว่าการสนับสนุนทางการเงินในการก่อการร้ายก็จะลดลงและผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะทำให้การก่อการร้ายลดลงไปด้วย