Please use this identifier to cite or link to this item:
https://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/1377Full metadata record
| DC Field | Value | Language |
|---|---|---|
| dc.contributor.author | อภิชัย ศรีพียร | - |
| dc.date.accessioned | 2023-01-25T08:08:46Z | - |
| dc.date.available | 2023-01-25T08:08:46Z | - |
| dc.date.issued | 2563 | - |
| dc.identifier.uri | https://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/1377 | - |
| dc.description.abstract | ตะไคร้ภูเขาเป็นพืชสมุนไพรที่พบตามธรรมชาติตามภูเขาสูงบริเวณภาคเหนือของประเทศไทย มีคุณสมบัติทางชีวภาพต่างๆ เช่น ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ฤทธิ์ต้านการอักเสบ รวมถึงฤทธิ์ต้านจุลชีพ การวิจัยครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาฤทธิ์ต้านแบคทีเรียของน้ำมันหอมระเหยสกัดจากผลของตะไคร้ภูเขาต่อเชื้อแบคทีเรียแกรมบวกและลบสายพันธุ์มาตรฐานจานวน 6 สายพันธุ์ และ clinical isolate จานวน 45 ไอโซเลท โดยใช้วิธี agar disk diffusion และ broth macrodilution ผลการศึกษาครั้งนี้พบว่า น้ำมันหอมระเหยตะไคร้ภูเขา สามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียทดสอบได้หลายชนิด โดยสามารถยับยั้งแบคทีเรียแกรมบวกได้ดีกว่าแบคทีเรียแกรมลบ ที่ค่าเฉลี่ย inhibition zone เท่ากับ 28.6+7.1 และ 19.1+12.2 มิลลิเมตร ตามลาดับ (p <0.01) และค่าความเข้มข้นต่าสุดในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรียแกรมบวกต่ำกว่าแบคทีเรียแกรมลบ โดยมีค่าเฉลี่ย MIC เท่ากับ 0.4+0.2 และ 3.3+3.0 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร ตามลำดับ (p <0.01) โดยยับยั้งเชื้อ Micrococcus spp. ได้ดีที่สุด นอกจากนี้จาก ค่า MIC index แสดงให้เห็นว่า น้ำมันหอมระเหยตะไคร้ภูเขามีคุณสมบัติการออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียทั้งสองชนิด การศึกษานี้ได้ทำการหาองค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันหอมระเหยตะไคร้ภูเขาโดยวิธี Gas chromatography-mass spectrometry (GC-MS) พบว่า องค์ประกอบทางเคมีหลักของน้ำมันหอมระเหยตะไคร้ภูเขา ได้แก่ d-limonene (ร้อยละ 34.93) β-pinene (ร้อยละ 24.47) β-terpinene (ร้อยละ 20.08) citronellal (ร้อยละ 4.50) และ α-pinene (ร้อยละ 2.83) จากงานการวิจัยก่อนหน้านี้ รายงานว่า สาร d-limonene มีคุณสมบัติในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรียได้ การวิจัยครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าน้ำมันหอมระเหยตะไคร้ภูเขามีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียได้หลายชนิด ทั้งนี้ควรมีการศึกษาด้านความเป็นพิษต่อเซลล์ก่อนการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ยับยั้งแบคทีเรีย | en_US |
| dc.description.sponsorship | สถาบันวิจัย มหาวิทยาลัยรังสิต | en_US |
| dc.language.iso | other | en_US |
| dc.publisher | สถาบันวิจัย มหาวิทยาลัยรังสิต | en_US |
| dc.subject | น้ำมันตะไคร้ -- เภสัชฤทธิวิทยา | en_US |
| dc.subject | ฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย | en_US |
| dc.subject | สารต้านแบคทีเรีย -- จากพืช | en_US |
| dc.subject | น้ำมันหอมระเหย -- ตะไคร้ -- วิจัย | en_US |
| dc.title | รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการวิจัย การศึกษาฤทธิ์ต้านแบคทีเรียของนํ้ามันหอมระเหยตะไคร้ภูเขา | en_US |
| dc.title.alternative | Evaluation of the antibacterial activity of essential oil of Litsea cubeba Pers | en_US |
| dc.type | Other | en_US |
| dc.description.other-abstract | Litsea cubeba, a traditional herb, commonly grows in the highlands of Northern Thailand. It contains several biological properties such as antioxidant, anti-inflammatory and antimicrobial activities. The objective of this study is therefore to evaluate the antibacterial activity of essential oil extracted from the fruit of Litsea cubeba Pers. on Gram positive and Gram negative bacteria; including 6 ATCC strains and 45 various clinical isolates by agar disk diffusion and broth macrodilution methods. For the results, Litsea cubeba essential oil (LCEO) could inhibit most of tested bacteria. The inhibitory activity against Gram positive bacteria was higher than Gram negative bacteria with inhibition zones of 28.6+7.1 and 19.1+12.2 mm, respectively. The minimum inhibitory concentration (MIC) of LCEO against Gram positive bacteria was also lower than that of Gram negative bacteria with MICs of 0.4+0.2 and 3.3+3.0 mg/mL, respectively. The highest activity was found against Micrococcus spp. According to MIC index, it demonstrated that LCEO could act as a bactericidal agent. The chemical composition of LCEO was determined by Gas chromatography-mass spectrometry (GC-MS). The result demonstrated that major components of LCEO were d-limonene (34.93%), β-pinene (24.47%), β-terpinene (20.08%), citronellal (4.50%) and α-pinene (2.83%). It is previously reported that d-limonene contains antibacterial activity. Overall, LCEO has a broad spectrum-antibacterial activity. Further study on the in vitro and in vivo cytotoxicity is necessary, prior to develop as the antibacterial products | en_US |
| Appears in Collections: | MeT-Research | |
Files in This Item:
| File | Description | Size | Format | |
|---|---|---|---|---|
| Apichai Sreepian.pdf | 2.13 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.