Please use this identifier to cite or link to this item: https://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/1388
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.authorทิพย์สุชน เอี่ยมสอาด-
dc.date.accessioned2023-01-26T02:23:34Z-
dc.date.available2023-01-26T02:23:34Z-
dc.date.issued2563-
dc.identifier.urihttps://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/1388-
dc.description.abstractAsparagus racemosus หรือชื่อที่เรียกในประเทศไทยคือ "รากสามสิบ" จัดเป็นพืชในวงศ์ Asparagaceae รากสามสิบมีการนำมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่างแพร่หลายในข้อบ่งใช้สำหรับเป็นยาบำรุงในสตรี เนื่องจากมีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน อย่างไรก็ตามการใช้เอสโตรเจนเป็นฮอร์โมนทดแทนมีรายงานว่าทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน ดังนั้นการศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาฤทธิ์ของสารสกัดรากสามสิบต่อการการเกิดลิ่มเลือด โดยดูผลต่อการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือดและการแข็งตัวของเลือด การเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือดทำตรวจวัดด้วยเครื่อง microplate reader โดยใช้ ADP เป็นสารกระตุ้นให้เกิดการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด กระบวนการแข็งตัวของเลือดทำการทดสอบค่า prothrombin time (PT) และ activated partial thromboplastin time (APTT) และ Bleeding time (BT) ทำการศึกษาแบบ in vivo ในหนูเมาส์ ผลการศึกษาพบว่าสารสกัดรากสามสิบที่ความเข้มข้น 200,400 และ 800 มิลลิกรัม/กิโลกรัม สามารถยับยั้งการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือดที่กระตุ้นด้วย ADP ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ p<0.05 เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม และ สารสกัดรากสามสิบที่ความเข้มข้น 800 มิลลิกรัม/กิโลกรัม มีผลทำให้ค่า APTT ยาวขึ้น โดยไม่มีผลต่อค่า PT แสดงให้เห็นว่าสารสกัดรากสามสิบในขนาดสูงขัดขวางการทำงานของกระบวนการแข็งตัวของเลือดในด้าน intrinsic pathway นอกจากนี้ยังพบว่าสารสกัดรากสามสิบที่ความเข้มข้น 800 มิลลิกรัม/กิโลกรัม มีผลทำให้ค่า BT ยาวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ p<0.05 เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม ผลการศึกษาครั้งนี้ได้ชี้ให้เห็นว่าสารสกัดรากสามสิบมีฤทธิ์ต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือดและต้านการแข็งตัวของเลือด อย่างไรก็ตามการศึกษาครั้งนี้ไม่ได้มีการศึกษากลไกระดับโมเลกุลของสารสกัดรากสามสิบในการยับยั้งการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือดและต้านการแข็งตัวของเลือด จึงควรศึกษาเพิ่มเติมถึงกลไกการออกฤทธิ์ที่ชัดเจนต่อไปen_US
dc.description.sponsorshipสถาบันวิจัย มหาวิทยาลัยรังสิตen_US
dc.language.isootheren_US
dc.publisherสถาบันวิจัย มหาวิทยาลัยรังสิตen_US
dc.subjectสามสิบ (พืช) -- ราก -- สารสกัดจากen_US
dc.subjectเลือด, การแข็งตัว -- วิจัยen_US
dc.subjectรากสามสิบ (พืช) -- เภสัชฤทธิวิทยา -- วิจัยen_US
dc.titleรายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการวิจัย การศึกษาผลของสารสกัดรากสามสิบต่อการเกิดลิ่มเลือดen_US
dc.title.alternativeStudy of the effects of Asparagus racemosus Wild root extract on thrombosisen_US
dc.typeOtheren_US
dc.description.other-abstractAsparagus racemosus Wild (AR), also known as "Raksamsib" in Thailand, is a plant in Asparagaceae. It is widely used as a dietary supplement for female tonic because of its estrogenic effect. However, estrogen replacement therapy was reported to cause a risk of thrombosis. Thus, this study aimed to investigate the effect of aqueous Asparagus racemosus root extract (ARRE) on thrombus formation, platelet aggregation, and blood coagulation activities. Platelet aggregation was measured by microplate reader using adenosine diphosphate (ADP) as agonists. The blood coagulation activity ex vivo was assessed using prothrombin time (PT) and activated partial thromboplastin time (APTT). Bleeding time (BT) in mice was used to determine its coagulant activities in vivo. Platelet aggregation assay showed that ARRE at doses 200, 400, and 800 mg/kg significantly (p<0.05) inhibited platelet aggregation induced by ADP when compared with control. It is found that ARRE at the high dose (800 mg/kg) prolonged the clot formation process of the only APTT but not PT, revealing the anticoagulation triggered by the extract could be due to its interference in an intrinsic pathway of the blood coagulation cascade. Furthermore, ARRE at the dose of 800 mg/kg significantly (p<0.05) enhanced the bleeding time when compared with control. The finding from this study indicates that ARRE has antiplatelet and anticoagulant activities. However, it was unclear about the mechanism of antiplatelet and anticoagulant. Therefore, the mechanism of action should be further studieden_US
Appears in Collections:Pha-Research

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Tipsuchon Aiamsa-ard.pdf11.01 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.