Please use this identifier to cite or link to this item: https://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/2461
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.authorพัชรี ตันติวิภาวิน-
dc.contributor.authorเพียงจันทร์ โกญจนาท-
dc.contributor.authorประพนธ์ จิตตะปุตตะ-
dc.date.accessioned2024-07-18T05:59:41Z-
dc.date.available2024-07-18T05:59:41Z-
dc.date.issued2559-
dc.identifier.urihttps://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/2461-
dc.description.abstract“คน”เป็นปัจจัยสำคัญสูงสุดของการบริหารงานให้ประสบความสาเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น หน้าที่ของผู้บริหารองค์การ คือ การรักษาคนดี มีความรู้ ความสามารถไว้ในองค์การ การศึกษาวิจัย ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาประสิทธิผลการบริหารและการพัฒนาทุนมนุษย์ของมหาวิทยาลัยเอกชนไทย เป็นการมุ่งศึกษาวิจัยเชิงสารวจ ผนวกกับ การศึกษาเชิงคุณภาพ โดยเลือกกลุ่มตัวอย่าง แบบเฉพาะเจาะจง ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และมหาวิทยาลัยศรีปทุม ผลการศึกษาวิจัยพบว่า กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีความสำคัญในสถาบันอุดมศึกษาโดยเฉพาะในมหาวิทยาลัยภาคเอกชน จะต้องสร้างแรงจูงใจให้บุคลากรมีความจงรักภักดีต่อองค์กรและแสดงศักยภาพในการทางานอย่างเต็มความรู้ความสามารถ รวมทั้งการรักษาคนดีและคนเก่งไว้กับองค์กร หรือลดอัตราการเข้าออกของบุคลากร ความก้าวหน้าและความมั่นคงในหน้าที่การงานของบุคลากรในสังกัดมหาวิทยาลัยที่ถูกแบ่ง เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ บุคลากรสายวิชาการตำแหน่งอาจารย์ และบุคลากรสายสนับสนุน แต่สถานภาพทางสังคมภายในมหาวิทยาลัยไม่เหมือนกัน ทั้งในเรื่องความก้าวหน้า โอกาส สวัสดิการ และสิทธิเสรีภาพอื่นๆ ผลการวิจัย ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า ความก้าวหน้าในอาชีพของอาจารย์/บุคลากรทางการศึกษา มีความสาคัญและจำเป็นอย่างยิ่งที่มหาวิทยาลัยเอกชน จะต้องมีการส่งเสริมความก้าวหน้าในอาชีพไม่ว่าจะเป็นด้านวิชาการ ด้านการวิจัย ด้านการบริการวิชาการแก่สังคม ด้านการทำนุบารุงศิลปะและวัฒนธรรม และด้านการบริหารจัดการ ซึ่งหากอาจารย์/บุคลากรทางการศึกษาได้รับการส่งเสริมอย่างดีและจริงจังจากสถาบันแล้ว จะทาให้อาจารย์/บุคลากรมีความรู้ ความสามารถ ทางานได้ดี มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลen_US
dc.description.sponsorshipสถาบันวิจัย มหาวิทยาลัยรังสิตen_US
dc.language.isootheren_US
dc.publisherสถาบันวิจัย มหาวิทยาลัยรังสิตen_US
dc.subjectทุนมนุษย์en_US
dc.subjectการพัฒนาทุนมนุษย์en_US
dc.subjectการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ -- กรณีศึกษาen_US
dc.titleรายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการวิจัย ประสิทธิผลการบริหารและการพัฒนาทุนมนุษย์ในมหาวิทยาลัยเอกชนไทยen_US
dc.title.alternativeThe effectiveness of human capital management and development of Thai Private Universitiesen_US
dc.typeOtheren_US
dc.description.other-abstract“Human” is the most important factor for effectively successful administration, so the duty of administrators is to maintain those who are good and talented. This research aimed at investigating the outcome of administration and human development in private Thai universities. The research focused on survey research together with qualitative research using specific samples which were Rangsit University, Bangkok University, and Sripatum University. It was found that human resource management process played an important role in a university especially private universities. Those private universities must persuade staffs to be loyal for the organization and to show full competency in work along with maintaining those who are good and talented or decreasing attendance and turnover rate. The progress and career stability of staffs in universities can be divided into 2 categories which are academic staffs or teacher and supporting staffs. In universities, they have different social status such as progress, opportunity, welfare, and other liberty and rights. The research pointed out that the progress of teachers and educational staffs is so essential that private universities must promote them for more progress in work such as academic aspect, research, academic services, art and culture conservation, and administration. If they are truly and well promoted, they will have more knowledge and competency to work effectivelyen_US
Appears in Collections:IDIS-Research

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
PACHAREE TANTIVIPAWIN.pdf2.92 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.