Please use this identifier to cite or link to this item: https://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/2631
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorณกมล จันทร์สม-
dc.contributor.authorชลกานต์ หิรัญชัย-
dc.date.accessioned2024-11-05T08:40:59Z-
dc.date.available2024-11-05T08:40:59Z-
dc.date.issued2558-
dc.identifier.urihttps://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/2631-
dc.descriptionรายงานการค้นคว้าอิสระฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิต สาขาวิชาการเป็นผู้ประกอบการ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต ปีการศึกษา 2558en_US
dc.description.abstractจากการเติบโตของเทคโนโลยีในปัจจุบัน รวมไปถึงพฤติกรรมในใช้สื่อของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป มีการสื่อสารทางอินเทอร์เน็ตมากขึ้นในการพูดคุย หรือส่งข่าวสาร สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ซึ่งในปัจจุบันมีเครื่องมือสื่อสารเป็นจำนวนมาก อาทิ Facebook, Twitter, Instagram, YouTube ฯลฯ จึงเข้ามามีบทบาทต่อการดำเนินชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ซึ่งมีรูปแบบการสื่อสารสองทาง (Interactive) ซึ่งทำให้ผู้บริโภคสามารถร่วมแบ่งปันข้อมูล ความรู้ ข่าวสารต่างๆให้แก่กันได้อย่างอิสระ และสามารถโต้ตอบกันได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้ทุกวันนี้ Social Media เข้ามาทีบทบาทต่อการดำเนินธุรกิจแทบทุกรูปแบบ ประกอบกับต้นทุนการผลิตสื่อ Social Media ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับสื่อด้านอื่น ๆ อีกทั้งยังเข้าถึงกลุ่มคนได้ง่ายและตลอดเวลาอีกด้วย การทำการตลาดแบบ Social Media Marketing (SMM) หรือ การทำการตลาดบนสังคมออนไลน์ เป็นหนึ่งในตัวช่วยการประชาสัมพันธ์ธุรกิจให้รู้จักในวงกว้าง หรือแม้กระทั่งสามารถทำให้บุคคลมีตัวตนเป็นที่รู้จักขึ้นมาในสังคม ซึ่งข้อดีของการทำการตลาดบนสังคมออนไลน์ อีกอย่างหนึ่งก็คือ สามารถเข้าถึงลูกค้าตรงตามกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วทันใจและใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง สามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้อย่างทันที เกิดการบอกต่อในหมู่มาก และที่สำคัญสามารถต่อยอดในการดำเนินธุรกิจได้หลากหลายรูปแบบ อาทิ การทำโปรโมชั่น การบริการหลังการขาย การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า การแสดงความรับผิดชอบของธุรกิจต่อสังคม เป็นต้น ดังนั้นองค์กรหรือบริษัทต่างๆ จึงเริ่มหันมาให้ความสนใจในการทำการตลาดบนสังคมออนไลน์มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการทำการตลาดผ่าน Facebook เมื่อแนวโน้มการเติบโตของจำนวนผู้ใช้ Social Media โดยเฉพาะ Facebook ที่มากยิ่งขึ้น และหลายองค์กรหันมาให้ความสนใจกับการทำการตลาดผ่าน Social Media ประกอบกับเป็นสื่อที่ต้นทุนการผลิตต่ำ แต่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมายและรวดเร็ว ดังนั้นการดำเนินแผนธุรกิจครั้งนี้ จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อวางแผนการประกอบธุรกิจของบริษัท แบรนด์ เบลนด์ จำกัด (Brand Blend Co.,Ltd.) ซึ่งดำเนินงานเกี่ยวกับเป็นตัวแทนการทำการตลาดผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) โดยมุ่งเน้นการสื่อสารแบรนด์ในเชิงสร้างสรรค์ (Creative Agency) ผ่านสื่อ Social Media และเครื่องมือสื่อสารการตลาดที่ทันต่อยุคสมัย ให้ตรงกับความพึงพอใจของลูกค้าและผู้บริโภคมากที่สุด บริษัท แบรนด์ เบลนด์ จำกัด (Brand Blend Co.,Ltd.) ดำเนินธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทธุรกิจกับธุรกิจ (Business-to-Business หรือ B2B) ตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 เลขที่ 19 หมู่ 8 ซอยสุขสวัสดิ์ 26 แยก 10 แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กทม.10140 อยู่บนถนนสุขสวัสดิ์ หากข้ามสะพานพระราม 9 มาแล้ว ให้กลับรถที่แยกวัดสน (แยกแรก หลังจากลงจากสะพานพระราม 9) จากนั้นวิ่งตรงมาเรื่อยๆ จะพบซอยสุขสวัสดิ์ 26 อยู่ทางซ้ายมือ เมื่อพบแล้วสามารถเดินทางจากหน้าซอยสุขสวัสดิ์ 26 ได้ทันที โดยตรงเข้ามาประมาณ 1.5 กม. และเลี้ยวขวาเข้าซอยแยก 10 ซึ่งจะอยู่ทางขวามือ จากนั้นตรงเข้ามาอีกประมาณ 50 เมตร สังเกตด้านซ้ายมือ จะพบกับบริษัท แบรนด์ เบลนด์ จำกัด บริษัท แบรนด์ เบลนด์ จำกัด ดำเนินกิจการด้านการทำการตลาดผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ให้กับผู้ที่สนใจทั้งการสื่อสารแบรนด์องค์กร (Corporate Brand) แบรนด์บุคคล (Personal Brand) แบรนด์สินค้า (Product Brand) หรือแบรนด์ที่เกิดขึ้นจากกระแสและวัฒนธรรม (Trendy and Cultural Brand) โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็ก ธุรกิจ SME ทั้งแบบเพิ่งเริ่มกิจการไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บริเวณกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งมีรายได้ (ต่อปี) น้อยกว่า 10 ล้านบาท ถึงสูงกว่าหรือเท่ากับ 200 ล้านบาท ขึ้นไป สำหรับผู้บริหารของ บริษัท แบรนด์ เบลนด์ จำกัด คือเจ้าของกิจการนั่นเอง และมีพนักงานจ้างในบริษัทจำนวน 3 ท่าน ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารออนไลน์ นักออกแบบกราฟฟิค และนักออกแบบเว็บไซต์ ตำแหน่งละ 1 ท่าน บริษัท แบรนด์ เบลนด์ จำกัด ใช้งบประมาณการลงทุนจำนวน 400,000 บาท มียอดขายปีที่ 1 เท่ากับ 2,515,200 บาท ปีที่ 2 เท่ากับ 3,018,240 บาท ปีที่ 3 เท่ากับ 3,521,280 บาท ปีที่ 4 เท่ากับ 4,024,320 บาท ปีที่ 5 เท่ากับ 4,527,360 บาท มีกำไรสุทธิในปีที่ 1 เท่ากับ 759,692 บาท ปีที่ 2 เท่ากับ 1,118,820 บาท ปีที่ 3 เท่ากับ 1,463,598 บาท ปีที่ 4 เท่ากับ 1,832,876 บาท และปีที่ 5 เท่ากับ 2,185,004 บาท ระยะเวลาคืนทุนของโครงการเท่ากับ 7 เดือนen_US
dc.language.isootheren_US
dc.publisherสาขาวิชาการเป็นผู้ประกอบการ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิตen_US
dc.subjectการวางแผนธุรกิจen_US
dc.subjectผู้ประกอบการen_US
dc.titleแผนธุรกิจ บริษัท แบรนด์ เบลนด์ จำกัดen_US
dc.typeOtheren_US
dc.description.degree-nameการจัดการมหาบัณฑิตen_US
dc.description.degree-levelปริญญาโทen_US
dc.contributor.degree-disciplineสาขาวิชาการเป็นผู้ประกอบการen_US
Appears in Collections:BA-MM-M-IDP

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
CHONLAKARN HIRUNCHAI.pdf31.56 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.