Please use this identifier to cite or link to this item:
https://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/743
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.advisor | อาภาพร นามวงศ์พรหม, น้ำอ้อย ภักดีวงศ์ | - |
dc.contributor.author | สุรีพร มะณีรัตน์ | - |
dc.date.accessioned | 2022-03-02T05:33:23Z | - |
dc.date.available | 2022-03-02T05:33:23Z | - |
dc.date.issued | 2561 | - |
dc.identifier.uri | https://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/743 | - |
dc.description | วิทยานิพนธ์ (พย.ม. (การพยาบาลผู้ใหญ่)) -- มหาวิทยาลัยรังสิต, 2561 | en_US |
dc.description.abstract | การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบวัดหลังและมีกลุ่มเปรียบเทียบเพื่อศึกษาผลของการใช้ แนวปฏิบัติที่ปรับปรุงขึ้นจากหลักฐานเชิงประจักษ์ในการป้ องกันการเกิด Extravasation ในผู้ป่ วย มะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัดกลุ่ม FOLFOX กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัดที่เข้ารับการ รักษาในหอผู้ป่วย 14 โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ระหว่างเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2560 ถึงเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2561 คัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจงจำนวน 70 ราย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มเปรียบเทียบจำนวน 44 ราย ซึ่งได้รับการดูแลตามแนวปฏิบัติปกติของโรงพยาบาล และกลุ่มที่ใช้แนวปฏิบัติ จำนวน 26 ราย ซึ่งได้รับการดูแลโดยใช้แนวปฏิบัติในการป้องกันการเกิด Extravasation ที่ปรับปรุงจาก หลักฐานเชิงประจักษ์ เก็บรวบรวมข้อมูลประเมินการเกิด Extravasation ตั้งแต่ผู้ป่วยเริ่มได้รับเคมี บำบัดจนกระทั่งได้รับเคมีบำบัดครบ วิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สถิติเชิง บรรยาย เปรียบเทียบความแตกต่างของการเกิด Extravasation ระหว่างกลุ่มใช้แนวปฏิบัติและกลุ่ม เปรียบเทียบโดยใช้สถิติ Fisher’s Exact test ผลการวิจัยพบว่ากลุ่มที่ได้รับการดูแลโดยใช้แนวปฏิบัติตามปกติเกิด Extravasation จา นวน 6 คน (ร้อยละ 13.64) ในขณะที่กลุ่มที่ใช้แนวปฏิบัติที่ปรับปรุงขึ้นจากหลักฐานเชิงประจักษ์ ไม่เกิด Extravasation เมื่อทดสอบด้วยสถิติ Fisher’s Exact test พบว่าไม่แตกต่างกัน (p = .078) ซึ่งความรุนแรงของการเกิด Extravasation อยู่ในระดับ 2 ทั้งหมด ผลการวิจัยแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของการนำแนวปฏิบัติที่ปรับปรุงขึ้นไปใช้ในโรงพยาบาล ผู้วิจัยเสนอแนะให้ทำวิจัยซ้า โดยเพิ่มขนาดของกลุ่มตัวอย่างให้มากขึ้น | en_US |
dc.language.iso | other | en_US |
dc.publisher | มหาวิทยาลัยรังสิต | en_US |
dc.subject | ผู้ป่วยมะเร็ง -- การพยาบาล | en_US |
dc.subject | มะเร็ง -- การรักษาด้วยเคมี -- วิจัย | en_US |
dc.subject | มะเร็ง -- ผู้ป่วย -- การดูแล -- วิจัย | en_US |
dc.subject | มะเร็ง | en_US |
dc.title | ผลของการใช้แนวปฏิบัติในการป้องกันการเกิด extravasation ต่ออัตราการเกิด extravasation ในผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด | en_US |
dc.title.alternative | Effects of extravasation prevention practice guideline on extravasation in patients with cancer undergoing chemotherapy | en_US |
dc.type | Thesis | en_US |
dc.description.other-abstract | This Posttest-only designs with comparison group aimed to investigate the effects of extravasation prevention practice guideline on extravasation in patients with cancer receiving FOLFOX regimen chemotherapy. A purposive sampling of 70 patients admitted to ward 14 of Chulabhorn Hospital during August 2017 to July 2018 was recruited for this study, 44 in comparison group received a standard care, 26 in intervention group received evidence-based care. Extravasation was assessed and collected during a cycle of chemotherapy. Data were analyzed by using descriptive statistics and Fisher’s Exact test. The findings showed that 6 patients (13.64%) in the comparison group had grade 2 extravasation injuries while there was none in the intervention group. Fisher’s Exact test was used to test the difference between two groups and found no significance (p = .078). It is suggested the benefit of using extravasation prevention practice guideline in the Hospital. Replication of research increasing number of subjects is also suggested | en_US |
dc.description.degree-name | พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต | en_US |
dc.description.degree-level | ปริญญาโท | en_US |
dc.contributor.degree-discipline | การพยาบาลผู้ใหญ่ | en_US |
Appears in Collections: | Nur-Adult-M-Thesis |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Sureeporn Maneerat.pdf | 2.64 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.