Please use this identifier to cite or link to this item:
https://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/1245| Title: | สาเหตุการเกิดอาชญากรรมภายในวัด : กรณีศึกษาวัดในอำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว |
| Other Titles: | The cause of crime within the temple : a case study in the Amphoe Wattananakorn, Sa Kaew Province |
| Authors: | พระครูสมุห์เผิน โจมรัมย์ |
| metadata.dc.contributor.advisor: | อรรถพล ควรเลี้ยง, กมล สุปรียสุนทร |
| Keywords: | อาชญากรรม -- ไทย -- สระแก้ว -- วิจัย |
| Issue Date: | 2557 |
| Publisher: | มหาวิทยาลัยรังสิต |
| Abstract: | การศึกษาเรื่องสาเหตุของการเกิดอาชญากรรมภายในวัด: กรณีศึกษาวัดในอำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) สาเหตุปัญหาและลักษณะการเกิดอาชญากรรมภายในวัด (2) ศึกษาถึงความสัมพันธ์ของวัดระหว่างสภาพแวดล้อมกับสาเหตุการเกิดอาชญากรรมภายในวัด และ (3) ศึกษาหามาตรการและแนวทางป้องกันและแก้ไข โดยเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือแบบสัมภาษณ์เชิง ลึก จำนวนกลุ่มตัวอย่างมีทั้งหมด 15 คน ประกอบด้วยประชาชนจำนวน 5 คน พระลูกวัดจำนวน 5 รูป และเจ้าอาวาสวัด จำนวน 5 รูป คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) ผลการศึกษาพบว่า (1) สาเหตุของการเกิดอาชญากรรมในวัดได้แก่ วัดใกล้แหล่งชุมชน คน ในชุมชนมีการดื่มของมึนเมา ดื่มสุรา วัดเป็นสถานที่ที่มีบุคคลเข้าออกตลอดเวลาง่ายต่อการเข้าถึง เป็นสถานที่ไม่มียามรักษาความปลอดภัยสามารถเข้าออกได้ง่าย เป็นสถานที่ที่มีคนมาทำบุญมากมีตู้ บริจาคที่มีเงินมากมาย และที่สำคัญวัดมีทรัพย์สินมีค่า (2) ลักษณะของการเกิดอาชญากรรมในวัดโดย ส่วนใหญ่จะเป็นการการลักขโมยทรัพย์สินมีค่าวัตถุโบราณ พระพุทธรูป การตัดเศียรพระพุทธรูป การ ขโมยเงินบริจาค ความขัดแย้งภายในของบุคลากรที่ทาำงานในวัด การทะเลาะวิวาท และการฆาตกรรม และ (3) ความสัมพันธ์ของวัดระหว่างสภาพแวดล้อมกับสาเหตุการเกิดอาชญากรรมภายในวัด พบว่า สภาพแวดล้อมมีความสัมพันธ์กับสาเหตุการเกิดอาชญากรรมภายในวัด (4) มาตรการและแนวทาง ป้องกันและแก้ไข พบว่า ในมาตรการและแนวทางป้องกันและแก้ไขควรมีการจัดเวรยามรักษาความ ปลอดภัยและรักษาทรัพย์สินของวัด มีการควบคุมทางออกทางเข้า เก็บรักษาพระพุทธรูปที่มีค่าให้ ปลอดภัย ไม่ล่อตาล่อใจโจร ประชาชนช่วยกันดูแล เป็นหูเป็นตา เพื่อช่วยรักษาสมบัติของวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจควรเข้ามาดูแลตรวจตราอย่างสม่า เสมอ ควรมีการนำเทคโนโลยีมาใช้เช่น สัญญาณ กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) นอกจากนี้อาจใช้วิธีการกวดขัน คัดกรองผู้ที่เข้ามาในวัดเพื่อป้องกัน บุคคลที่จะมาแสวงหาผลประโยชน์ในวัดหรือเข้ามาประกอบอาชญากรรมต่างๆ รณรงค์ให้ผู้ที่เข้ามา ทำบุญในวัดช่วยกันสอดส่องดูแล บุคคลที่ทำงานในวัดก็มีส่วนในการช่วยเหลือป้องกัน และ (5) ความคิดเห็นในด้านอื่นๆ พบว่า วัดไม่ใช่สมบัติของพระหรือของผู้ใดผู้หนึ่ง ซึ่งทุกคนต้องช่วยกัน รักษา เป็นหูเป็นตา ไม่ใช่เฉพาะเรื่องอาชญากรรมซึ่งรวมถึงการดูแล บำรุงรักษาทุกอย่างในวัด ประชาชนที่อยู่บริเวณโดยรอบวัดควรช่วยกันสอดส่องดูแล เพราะวัดเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของ ประชาชนในชุมชน ทางวัดควรมีวิธีการตรวจสอบในด้านต่างๆ เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ ควรมี องค์กรต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือสนับสนุนในการป้องกันอาชญากรรม |
| metadata.dc.description.other-abstract: | The cause of crime in area of temple: a case study in the Amphoe Wattananakorn, Sakaeo Province is the research with objectives to study about (1) cause and characteristics of crime in area of temple (2) the correlation between environment in the temple and the cause of crime, and (3) preventing measures and ways to prevent problem from the crime. In-depth interview was used for data collection instrument. The sample of this research was selected by purposive sampling method, and divided into 3 groups with 5 samples in each group such as: 5 samples for general peoples, 5 samples for monk, and 5 samples for reverends monk. The results were finding as followed: (1) cause of crime in area of the temple was alcoholic drinking people that residents in the crown community area around the temple, not prohibit to enter for all time, no security guard, much of kind-hearted person that cause to expanding of donation box around the area of the temple, and properties gathering in some place in the temple. (2) Characteristics of crime in the temple were to steal ancient objects or image of Buddha, cut and stole the head of image of Buddha, stole the donation, conflict between staffs of temple as liaison, brawl between the peoples, and murder (3) Environment in the temple was correlated to the cause of crime. (4) About preventing measures and ways to prevent problem from the crime, appropriated way were providing of security guard for preventing crime in area of the temple, in-out people screening and control, keeping the valuable image of Buddha in security place, investigation around the area of the temple by peoples resident in the crown community, ask for co-operation from police to area security, using of investigation technology as CCTV installation in the temple, using campaign for Ask kind-hearted person and staff of temple for investigation about crime accused person and (5) for other suggestion, everyone have responsibility to secure and prevention the temple, because of the temple is not property that belongs to monk or peoples. Not only to secure and prevention in issue of crime, but in everything. Moreover, the temple should have some preventing measures, including co-operating with related organization to prevent problem from the crime. |
| Description: | วิทยานิพนธ์ (รป.ม. (อาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม)) -- มหาวิทยาลัยรังสิต, 2557 |
| metadata.dc.description.degree-name: | รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต |
| metadata.dc.description.degree-level: | ปริญญาโท |
| metadata.dc.contributor.degree-discipline: | อาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม |
| URI: | https://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/1245 |
| metadata.dc.type: | Thesis |
| Appears in Collections: | PAI-PA-M-Thesis |
Files in This Item:
| File | Description | Size | Format | |
|---|---|---|---|---|
| PHRAKRU. SAMUPERN JOMRUN.pdf | 2.01 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.