Please use this identifier to cite or link to this item: https://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/2316
Title: รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการวิจัย การเตรียมแผนผังวัฎภาคของระบบไมโครอิมัลชัน และไมโครอิมัลชัน ที่เกิดขึ้นได้เองสำหรับสมุนไพร
Other Titles: การเตรียมแผนผังวัฎภาคของระบบไมโครอิมัลชัน และไมโครอิมัลชัน ที่เกิดขึ้นได้เองสำหรับสมุนไพร
Authors: ภัททวัฒน์ มณีวัฒนภิญโญ
Keywords: ไมโครอิมัลชัน -- วิจัย;ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง;สมุนไพร, ผลิตภัณฑ์จาก
Issue Date: 2559
Publisher: สถาบันวิจัย มหาวิทยาลัยรังสิต
Abstract: ข้อดีของไมโครอิมัลชันและไมโครอิมัลชันที่เกิดขึ้นได้เองคือเป็นระบบที่มีเสถียรภาพทางอุณหพลวัตจึงช่วยเพิ่มอายุคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้ยาวนานขึ้นเมื่อนามาผลิตเป็นเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเหล่านี้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวหนัง เพิ่มการดูดซึมของสารสกัดสมุนไพรเข้าสู่ผิวหนังได้ดีขึ้นและยังตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคเนื่องจากได้ผลิตภัณฑ์ที่มีความใสและความหนืดต่ำ ในงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ในการเตรียมระบบไมโครอิมัลชันและไมโครอิมัลชันที่เกิดขึ้นได้เองสำหรับสารสกัดสมุนไพร ซึ่งสารสกัดสมุนไพรถูกเตรียมและทดสอบประสิทธิภาพการโดย ดร.ชลทิต สนธิเมือง คณะการแพทย์แผนไทยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในงานวิจัยนี้เริ่มต้นด้วยการทดสอบค่าการละลายของสารสกัดสมุนไพรในน้ำมันและสารลดแรงตึงผิวชนิดต่างๆ จากนั้นนำชนิดน้ำมันและสารลดแรงตึงผิวที่ดีที่สุดมาเตรียมเป็นระบบไมโครอิมัลชันและไมโครอิมัลชันที่เกิดขึ้นได้เอง ซึ่งแผนภาพวัฏภาคไตรภาคเทียมที่เหมาะสมสำหรับระบบไมโครอิมัลชันประกอบด้วยวัฏภาคน้ำ caprylic acid เป็นวัฏภาคน้ำมัน Tween®80 ผสมร่วมกับ absolute ethanol ในสัดส่วน 8:2 เป็นสารลดแรงตึงผิว และแผนภาพวัฏภาคไตรภาคเทียมที่เหมาะสมสำหรับระบบไมโครอิมัลชันที่เกิดขึ้นได้เองประกอบด้วย propylene glycol เป็นสารลดแรงตึงผิวร่วมโดยใช้ caprylic acid เป็นวัฏภาคน้ำมัน Tween®80 ผสมร่วมกับ absolute ethanol ในสัดส่วน 8:2 เป็นสารลดแรงตึงผิว ผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ชนิดมีค่าความเป็นกรด--ด่างที่เหมาะสมต่อการใช้สัมผัสกับผิวหนัง มีขนาดอนุภาคที่อยู่ในระดับนาโนเมตรที่อยู่ในช่วงที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลายในทางเภสัชกรรม ค่าศักย์ซีตาอยู่ในช่วงที่เหมาะต่อการเตรียมเป็นตำรับที่มีความคงตัว ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าการนำสารสกัดสมุนไพรมาผลิตเป็นตารับในรูปแบบไมโครอิมัลชันและไมโครอิมัลชันที่เกิดขึ้นได้เองนั้นมีความคงตัวทั้งทางกายภาพและเคมีและเป็นแนวต่อการพัฒนาสมุนไพรเพื่ออุตสาหกรรมเครื่องสำอางได้อีกรูปแบบหนึ่ง
metadata.dc.description.other-abstract: The advantage of miroemulsion and self-microemulsifying systems are the thermodynamic stability, so these make product has a long shelf-life when it is used in cosmetic products. These cosmetic products have high efficiency, increasing moisturized skin, increasing absorption of herbal extract compound into the skin as well as supporting the need of customer due to the brightness and low viscosity. This work aimed to prepare the microemusion and self-microemulsifying system systems which incorporated the herbal extract compound. The herbal extract compound was prepared and tested the anti-acne activity by Dr.Cholatid Sontimaung, Faculty of Traditional Thai Medicine, Prince of Songkla University. The microemusion composed of water, caprylic acid as oil phase, and Tween®80 : absolute ethanol 8 : 2 as surfactant. The self-microemulsifying system composed of caprylic acid as oil phase, propylene glycol as surfactant, and Tween®80 : absolute ethanol 8 : 2 as co – surfactant. The zeta potential and pH values of these preparation could be used to contact with the human skin. Thus, the microemusion and self-microemulsifying system systems incorporated the herbal extract compound had the good physical and chemical preparation that will be developed for cosmetic product, in the future.
URI: https://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/2316
metadata.dc.type: Other
Appears in Collections:Pha-Research

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
PATTWAT MANEEWATTANAPINYO.pdf942.91 kBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.