Please use this identifier to cite or link to this item:
https://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/2546
Title: | รายงานผลงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการวิจัย การศึกษาย้อนหลังเพื่อประเมินขนาดก้อนที่ต่อมไทรอยด์ที่สางผลต่อการเบียดหลอดลมทำให้มีการเคลื่อนที่ไปจากแนวปกติ |
Other Titles: | Evaluation of the thyroid nodule size that causes compression on the trachea shift: a retrospective study |
Authors: | นัฐพงษ์ มูลคำ |
Keywords: | ต่อมไทรอยด์ -- การตรวจ -- วิจัย;รังสีวิทยาการแพทย์ -- เครื่องมือเเละอุปกรณ์ -- วิจัย;ทรวงอก -- การดูภาพทางรังสีวินิจฉัย |
Issue Date: | 2566 |
Publisher: | สถาบันวิจัย มหาวิทยาลัยรังสิต |
Abstract: | การถ่ายเอกซเรย์ทรวงอกเป็นการคัดกรองสุขภาวะของผู้ป่วยที่มีประสิทธิภาพสูงและรวดเร็ว เนื่องจากสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงอวัยวะต่างๆได้ รวมถึงแนวของท่อหลอดลม ซึ่งการศึกษาในครั้งนี้ได้การ เก็บรวบรวมข้อมูลย้อนหลังจํานวน 2,900 ราย ที่มีผลการถ่ายเอกซเรย์ทรวงและผลอัลตราซาวน์ เพื่อดูขนาด ก้อนบริเวณต่อมไทรอยด์ทั้งก้อนและถุงน้ํา ที่ทําให้เกิดการเคลื่อนที่ไปจากแนวเดิมของหลอดลมว่ามีความสัมพันธ์ต่อการเกิดโรคในต่อมไทรอยด์หรือไม่จากการคึกษาพบว่าที่ระยะการเคลื่อนที่ไปจากตําแหน่งเดิมของหลอดลมน้อยกว่า 2.5 มิลลิเมตร ไม่พบอุบัติการณ์ของรอยโรคที่ต่อมไทรอยด์ แต่กลับพบว่าที่ระยะการเคลื่อนที่ไปจากตําแหน่งเดิมของหลอดลม มากกว่า 2.5 มิลลิเมตร มีสัมพันธ์กับรอยโรคที่ต่อมไทรอยด์ทั้งการเกิดก้อนและถุงน้ํา โดยยืนยันจากผล ตรวจอัลตราซาวน์และการอ่านผลของรังสีแพทย์นอกจากนี้ยังพบว่าอุบัติการณ์เกิดรอยโรคที่ต่อมไทรอยด์นั้นสัมพันธ์กับปัจจัยทางด้านอายุ ตําแหน่งที่เกิดรอยโรคบนต่อมไทรอยด์และเพศ ซึ่งผลดังกล่าวอาจสรุปได้ว่าตําแหน่งที่เคลื่อนไปจากแนวปกติของ หลอดลมจากภาพถ่ายทางรังสีบริเวณทรวงอก เมื่อมีระยะที่น้อยกว่า 2.5 มิลลิเมตร อาจไม่จําเป็นต้องส่งตรวจ พิเศษทางรังสีวิทยา เพื่อที่จะได้ประหยัดเวลา ค่าใช้จ่ายและลดการได้รับปริมาณรังสีโดยไม่จําเป็น แต่อย่างไรก็ตามการศึกษาเบื้องต้นอาจต้องศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลแลปจากห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ของผู้ป่วยหรือผู้เข้ารับบริการแต่ละคน เพื่อที่จะสามารถนํามาเป็นแนวทางและพัฒนาการในการส่งตรวจทางการแพทย์ได้ |
metadata.dc.description.other-abstract: | Chest X-rays serve as a swift and efficient screening tool for assessing patient health, capable of detecting changes in multiple organs, including the position of the tracheal tube. This retrospective study analyzed data from 2,900 patients who underwent both chest X-rays and ultrasound examinations. The aim was to evaluate the presence and size of masses surrounding the thyroid gland, including both tumor and cysts, and their potential impact on tracheal alignment. The study sought to ascertain whether such deviations were indicative of thyroid gland pathology or unrelated conditions. The research revealed that tracheal displacement of less than 2.5 millimeters from its original position correlated with an absence of thyroid lesions. Conversely, a displacement exceeding 2.5 millimeters was significantly linked to thyroid lesions, including nodules and cysts. This observation was validated through both ultrasound findings and interpretations by radiologists. Furthermore, the study identified correlations between the occurrence of thyroid lesions and factors such as age, lesion location on the thyroid gland, and gender. Based on these findings, it suggests that when tracheal displacement on chest radiographs is less than 2.5 millimeters, specialized radiological assessments may not be warranted. This approach could streamline time and costs while minimizing unnecessary radiation exposure. However, it is important to note that this preliminary investigation may necessitate further analysis of individual patients' or service recipients' laboratory results from medical facilities. Such follow-up could serve as a basis for refining medical examination protocols and guiding future developments in this field |
URI: | https://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/2546 |
metadata.dc.type: | Other |
Appears in Collections: | RdT-Research |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
NUTTHAPONG MOONKUM.pdf | 1.5 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.