Please use this identifier to cite or link to this item:
https://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/903
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.advisor | เทอดศักดิ์ ชมโต๊ะสุวรรณ | - |
dc.contributor.author | ธนิต อินทร | - |
dc.date.accessioned | 2022-03-10T06:53:31Z | - |
dc.date.available | 2022-03-10T06:53:31Z | - |
dc.date.issued | 2561 | - |
dc.identifier.uri | https://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/903 | - |
dc.description | วิทยานิพนธ์ (ศ.ม. (เศรษฐศาสตร์ประยุกต์)) -- มหาวิทยาลัยรังสิต, 2561 | en_US |
dc.description.abstract | จากพลวัตการเติบโตทางเทคโนโลยีส่งผลให้ประเทศไทยเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งมีการค้าขายในระบบออนไลน์มากขึ้นตามกาลเวลาและการเจริญเติบโตของประเทศและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่มูลค่าทางการค้าในระบบออนไลน์เพิ่มขึ้นจาก 822,071,750 บาท ในปี พ.ศ. 2549 เป็น 7,843,648,100 บาท ในปี พ.ศ. 2558 ซึ่งมีศักยภาพที่จะเป็นช่องทางการค้าหลักที่สาคัญในระบบเศรษฐกิจไทยในอนาคต การวิจัยนี้จึงมุ่งที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมและแนวโน้มการบริโภคสินค้าและบริการออนไลน์ของผู้พำนักในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจบริโภคสินค้าและบริการออนไลน์ อันจะเป็นประโยชน์และแนวทางในการพัฒนา การปรับตัว และวางแผนนโยบายต่างๆ เพื่อรองรับระบบการค้าออนไลน์ในประเทศไทย การวิจัยนี้วิเคราะห์พฤติกรรมการบริโภคและแนวโน้มต่างๆ ด้วยวิธีการพรรณนาเชิงสถิติ และ วิเคราะห์นัยสาคัญของปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อการบริโภคสินค้าและบริการออนไลน์โดยการประยุกต์ใช้แบบจำลองทางเศรษฐมิติ แหล่งข้อมูลหลักที่สำคัญของการวิจัยนี้เป็นข้อมูลทุติยภูมิจากข้อมูลการสารวจการมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในครัวเรือนในช่วงปี พ.ศ. 2549 - 2558 ของสานักงานสถิติแห่งชาติผลการวิจัยนี้ พบว่า ในรอบทศวรรษที่ผ่านมาจานวนผู้บริโภคสินค้าและบริการออนไลน์เพิ่มขึ้นประมาณ 1,242% โดยเพิ่มจากประมาณ 115,181 คนในปี 2549 เป็นประมาณ 1,546,030 คน ในปี 2558 สินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการบริโภคออนไลน์คือสินค้าหมวดเครื่องแต่งกายเครื่องประดับ และ สินค้าที่ได้รับความนิยมรองลงมาในการบริโภคออนไลน์คือสินค้าหมวดอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าด้านสุขภาพสินค้าในหมวด เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ในขณะที่สินค้าในหมวด ซอฟแวร์ต่างๆ มีมูลค่าการซื้อขายสูงต่ำสุด ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ 3 อันดับแรกได้แก่ ปัจจัยด้านภูมิภาค ปัจจัยด้านระดับการศึกษา และปัจจัยด้านยุคสมัย ตามลำดับ ปัญหาการกลัวถูกหลอกลวงและปัญหาของการไม่เห็นสินค้าจริงยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคอีกจำนวนมากไม่ตัดสินใจบริโภคสินค้าและบริการออนไลน์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ในขณะความกังวลของผู้บริโภคด้านขั้นตอนการสั่งซื้อสินค้ายุ่งยาก ด้านความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวและบัตรเครดิต และด้านอื่นๆ อาทิเช่น กลัวสินค้าไม่ได้มาตรฐาน กลัวของปลอม กลัวสินค้าชำรุดระหว่างส่ง ค่าขนส่งแพง มีแนวโน้มลดลง ปัจจัยที่ส่งผลต่อมูลค่าการใช้จ่ายออนไลน์มากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ปัจจัยเพศ ปัจจัยการมีงานทำและ ปัจจัยการศึกษา ตามลำดับ | en_US |
dc.language.iso | other | en_US |
dc.publisher | มหาวิทยาลัยรังสิต | en_US |
dc.subject | การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ -- ไทย | en_US |
dc.subject | การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ -- ไทย | en_US |
dc.subject | เศรษฐกิจดิจิทัล | en_US |
dc.subject | พฤติกรรมผู้บริโภค -- ไทย | en_US |
dc.title | การวิเคราะห์ปัจจัยกำหนดการบริโภคสินค้าและบริการออนไลน์ ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ของผู้พำนักในประเทศไทย | en_US |
dc.title.alternative | Analysis of determinants of online goods and services consumption in digital economy era of resident in Thailand | en_US |
dc.type | Thesis | en_US |
dc.description.other-abstract | Growth dynamics of technology affects Thailand stepped into the digital economy. There are more online trading varying on the time and economic development. The value of online commerce increased from 822,071,750 baht in 2006 to 7,843,648,100 baht in 2015. It is likely to continue to grow and has the potential to become a major trading channel in the Thai economy in the future. This research aims to understand behavior and the trend of goods and services consumption of the resident in Thailand. Especially the factors that affect the decision to consume the online goods and services. It will be useful and guidelines for improving adapting and setting policies to support the online trading system in Thailand. This research analyzes consumption behavior and trends through statistical descriptive methods and analyzes the significance of factors affecting the consumption of online goods and services by applying the econometric model. The main data source utilized in this research is the secondary data named the survey of information and communication technology usage in households during 2006 – 2015 from the national statistical office. This research found that over the past decade, the number of consumers of online goods and services has risen by about 1,242% up from approximately 115,181 people in 2006 to about 1,546,030 people in 2015. The most popular product in online consumption is the products in the clothes and jewelry category and the next popular rank is the products in the food beverages and health products category. The products in the clothes and jewelry category have the highest turnover, while the products in the software category have the lowest turnover. The top three factors that influenced the decision to buy are the regional factor, the educational level and the era factor, respectively. Fear of being scammed and the problem of not seeing the actual product have been still a major obstacle causing many consumers not to decide to consume the online goods and services from the past to the present. While concerning about the complicated ordering process, the security of personal information and credit card and other aspects such as fear of non-standard products, fear of counterfeit goods, damaged during delivery, expensive transportation are likely to decline. The three most important factors affecting online spending were gender, working and education, respectively. | en_US |
dc.description.degree-name | เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต | en_US |
dc.description.degree-level | ปริญญาโท | en_US |
dc.contributor.degree-discipline | เศรษฐศาสตรประยุกต์ | en_US |
Appears in Collections: | EC-AE-M-Thesis |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Thanit Intorn.pdf | 2.13 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.