องค์การอัจฉริยะของธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศไทย

Abstract

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบและคุณลักษณะองค์การอัจฉริยะของ ธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศไทย และปัจจัยหรืออุปสรรคที่ส่งผลต่อความสําเร็จหรือความล้มเหลว ขององค์การอัจฉริยะของธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศไทย โดยมีผู้ให้ข้อมูลหลัก คือ องค์การ กลุ่มเป้าหมายจาก 3 กลุ่มอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันที่ดําเนินงานในประเทศไทยและมีผลประกอบการโดดเด่น ติดอันดับ 1 ใน 3 ของการจัดอันดับธุรกิจของสถาบันจัดอันดับต่างๆ ทั้งนี้ ได้แก่ บริษัทไทยออยล์ จํากัด (มหาชน) กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน ธนาคาร กสิกรไทย จํากัด กลุ่มอุตสาหกรรมการเงิน และบริษัทสยามเลมเมอร์ซ จํากัด บริษัทร่วมทุนในเครือปูนซิเมนต์ไทยและแม็กซิออนไล (บริษัทผู้ผลิตและจําหน่ายล้อแม็กซ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก) ในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนโดยเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ มีการรวบรวมข้อมูล 2 ขั้นตอน คือ การวิจัยเอกสาร(Documentary Research) และการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) กับผู้ให้ข้อมูลหลัก 3กลุ่มคือ ผู้รับบริหารระดับกำหนดนญบายขององค์การ ผู้บริหารหรือทีมผู้บริหารระดับผู้อํานวยการ และพนักงานระดับปฏิบัติการ ซึ่งมีผลการวิจัยดังนี้ ทีมผู้บริหารองค์การ มีส่วนสําคัญเป็นอย่างมากในการนําองค์การไปสู่การเป็นองค์การอัจฉริยะ โดยองค์การส่วนใหญ่ที่เป็นองค์การอัจฉริยะ มักจะมีทีมผู้บริหารชุดหนึ่งที่เป็นทีมผู้กําหนด วิสัยทัศน์ ผลักดันวัฒนธรรมองค์การที่เน้นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการยอมรับการเปลี่ยนแปลง บริหารงานด้วยโครงสร้างและรูปแบบองค์การที่ยืดหยุ่น ใช้กลยุทธ์ที่เน้นคุณค่าหลักขององค์การ เน้นในเรื่องของการนํานวัตกรรมใหม่ๆ มาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการอย่างต่อเนื่อง มีเพียงองค์การที่ใช้กลยุท หลักที่เน้นการพัฒนานวัตกรรมเหนือกลยุทธ์อื่นเท่านั้น ที่เหมาะกับการมีผู้นําา องค์การเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจ (Aspiration Leader) เพียงคนเดียว เพื่อความรวดเร็วในการแก้ปัญหา ตัดสินใจและการเจรจาต่อรอง องค์การอัจฉริยะให้ความสําคัญกับการคัดเลือกทีมงานที่มีความสามารถ มีมนุษยสัมพันธ์ดี (EQ สูง) มีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ทํางานร่วมกันและเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม เป็น ทีมงานที่รวมตัวกันจากความหลากหลาย จากสาขาความรู้ที่แตกต่างกัน จากหลาย สถาบันการศึกษา นําเทคโนโลยี เช่น Social Media มาใช้ในการทํางานและการถ่ายทอดความรู้ ร่วมกัน เกิดความคิดในเชิงสร้างสรรค์ ช่วยให้องค์การสามารถมีกลยุทธ์ธุรกิจที่ดีกว่า เหนือกว่า และต้นทุนถูกกว่าคู่แข่ง จึงสร้างผลกําไรและประสิทธิภาพการทํางานที่ดีกว่า ดําเนินธุรกิจได้ยั่งยืน กว่าคู่แข่ง จึงสร้างผลกำไรและประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า ดำเนินธุรกิจได้ยั่งยืน การเป็นองค์การอัจฉริยะ คือ การรวมเอาองค์การแห่งวิสัยทัศน์ องค์การแห่งการเรียนรู้ องค์การที่เน้นการทํางานเป็นทีมและการพัฒนาศักยภาพพนักงานองค์การแห่งนวัตกรรม และองค์การแห่งความสุข ไว้เป็นคุณลักษณะการเป็นองค์การอัจฉริยะของธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศ ไทยในภาวะปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดบรรยากาศของความร่วมมือ พนักงานมีส่วนร่วมในการช่วย แก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในองค์การ พนักงานมีสวัสดิการที่ดี มีความเครียดลดลง มีสุขภาพจิตดี สุขภาพกายแข็งแรง มีคุณธรรม มีน้ําใจต่อกัน มีชีวิต มีครอบครั มีครอบครัวที่มีความสุข จึงสามารถดึง ศักยภาพมาใช้ในการทํางานได้มีประสิทธิภาพและประสิทธิ ผลมากกว่า ช่วยส่งเสริมให้เกิดการ สร้างนวัตกรรมในการทํางาน มีวิธีการแก้ปัญหาต่างๆ ที่หลากหลายขึ้น และเพิ่มผลผะเพิ่มผลผลิตให้สูงขึ้น สิ่งที่สําคัญอย่างยิ่งในองค์การอัจฉริยะทั้ง 3 แห่งที่พบ ก็คือ ผู้นําวิถีแห่งปัญญา โดยบริษัท ไทยออยล์ จํากัด (มหาชน) มีผู้นําที่ร่วมสร้างและใช้ระบบการบริหารงานที่ทรงประสิทธิภาพ ในขณะที่ธนาคารกสิกรไทย มีผู้นําที่ใช้หลักวิถีาที่ใช้หลักวิถีพุทธในการเข้าใจองค์การและผู้ร่วมทีม สําหรับ บริษัทสยามเลมเมอร์ซ จํากัด มีผู้นําที่สร้างประสิทธิภาพในวิถีตะวันตกที่มีวัฒนธรรมเป็นของตนเอง