Please use this identifier to cite or link to this item:
https://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/1656
Title: | การบริหารงานบัญชีของนักธุรกิจที่ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศไทย |
Other Titles: | Management accounts of the business operations of small and medium enterprises in Thailand |
Authors: | วรภัทร ธรรมวราภิรมย์ |
metadata.dc.contributor.advisor: | รัตพงษ์ สอนสุขภาพ, ชอบวิทย์ ลับไพรี |
Keywords: | ntrol ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม -- การบัญชี -- วิจัย SubjectControl;ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม -- วิจัย;การบัญชี -- วิจัย;องค์การแห่งนวัตกรรม -- วิจัย |
Issue Date: | 2556 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยรังสิต |
Abstract: | ดุษฎีนิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอรูปแบบของนักธุรกิจในเชิงพฤติกรรมการบริหารงานบัญชีในกิจการขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศไทย โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก เจ้าหน้าที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จำนวน 3 คน เจ้าหน้าที่กรมสรรพากร จำนวน 2 คน ผู้ตรวจสอบบัญชีและผู้จัดทำบัญชี จำนวน 5 คน และ ประชุมกลุ่ม นักธุรกิจ กรรมการผู้จัดการบริษัท ที่มีขนาดกลางและขนาดย่อมในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จำนวน 10 คน โดยวิเคราะห์เนื้อหา(Content Analysis) พร้อมๆ กับการทบทวนเอกสารจะถูกวิเคราะห์และจดบันทึก เพื่อนำมารวบรวมในการตอบโจทย์คำถามการวิจัย ส่วนข้อมูลที่ได้จาก การสังเกตแบบมีส่วนร่วมจะถูกถ่ายทอดโดยการจดบันทึกอย่างเป็นระบบ ผลการวิจัยพบว่า นักธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศไทยมีการบริหารงานบัญชีมีคุณลักษณะ ปัจจัยส่วนบุคคล โดยเป็นผู้มีความรู้ ประสบการณ์ทางด้านการบริหาร แต่ยังไม่มีความเข้าใจในส่วนการบริหารงานบัญชีอย่างชัดเจน สามารถแบ่งแยกเป็น 3 จำพวก ได้แก่ นักธุรกิจที่บริหารงานบัญชีไม่ถูกต้อง (กลุ่มหลีกเลี่ยงกฎหมาย), นักธุรกิจกลุ่มที่พยายามบริหารงานบัญชีให้ถูกต้อง โดยตนเองยังไม่มีความรู้ด้านการบัญชีอย่างชัดเจน และกลุ่มนักธุรกิจที่บริหารงานบัญชีอย่างถูกต้อง การบริหารงานบัญชีของนักธุรกิจในขนาดกลางและขนาดย่อม มักจะคำนึงถึงปัจจัย ด้านภาษีอากร หลักการของข้อกฎหมายที่กำหนดให้ต้องจัดทำบัญชี เป็นสำคัญ มักจะยังไม่ได้ นำข้อมูลในงบการเงินมาให้ในการบริหารงานอย่างแท้จริง ทำให้การจัดทำงบการเงินยังไม่มีคุณภาพ ข้อเสนอแนะจากการวิจัย คือ หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องควรจะมีการประชาสัมพันธ์ให้นักธุรกิจที่เริ่มจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลใหม่ ทราบถึงหน้าที่ในการจัดทำบัญชีและพยายามสร้างความเข้าใจถึงประโยชน์ในการนำข้อมูลในงบการเงินมาปรับใช้ในการบริหารงาน เพื่อให้ทราบผลการดำเนินงานของกิจการตนเอง เพื่องบการเงินของกิจการจะมีคุณภาพ และสามารถแสดงข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ถูกต้องของประเทศต่อไป |
metadata.dc.description.other-abstract: | The objective of this research study was to present the form of businessmen by accounting management behavior in small and medium enterprises (SME) in Thailand by using rules in qualitative research method from in-depth interviews of 3 officers from Department of Business Development, 5 officers from Revenue Department, 5 persons from auditors and bookkeepers and 10 persons from group meetings, businessmen, managing directors of SME in Bangkok and the outskirt. With the content analysis and document reviews, they have been analyzed and noted for the compilation in answering research questions. For the information from of participated observations, it was systematically recorded. Research result found that small and medium enterprises businessmen in Thailand had accounting management of individual character whose were knowledgeable and experienced but had unclear understandings. The accounting understandings were classified into three groups: 1) businessmen with wrong accounting understanding (law avoidance) 2) businessmen with attempt to manage right accounting management by themselves without knowledge 3) businessmen with right accounting management. Accounting management of small and medium enterprises had to consider tax factor. Concept of law that set out the bookkeeping had not bring financial statement information into use in real actual management making substandard financial statement management. Recommendation from the research was that relevant government organizations should publicized businessmen who to register new legal entity to know the duty of bookkeeping and to make them understand the benefit of applying financial statement information in management for knowing their own enterprise operation, for quality enterprise financial statement and showing correct economic information of the country. |
Description: | ดุษฎีนิพนธ์ (ปร.ด. (ผู้นำทางสังคม ธุรกิจ และการเมือง)) -- มหาวิทยาลัยรังสิต, 2556 |
metadata.dc.description.degree-name: | ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต |
metadata.dc.description.degree-level: | ปริญญาเอก |
metadata.dc.contributor.degree-discipline: | ผู้นำทางสังคม ธุรกิจและการเมือง |
URI: | https://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/1656 |
metadata.dc.type: | Thesis |
Appears in Collections: | CSI-LSBP-D-Thesis |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
WORAPHAT THAMMAWARAPHIROM.pdf | 2.1 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.