Please use this identifier to cite or link to this item: https://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/527
Title: การพัฒนาความสามารถในการอ่านออกเสียงพินอินโดยใช้วิธีการสอนแบบสาธิตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
Other Titles: The development of pinyin pronunciation ability of Thai grade 10 students using the demonstration teaching method
Authors: เต๋อจู้ จ้าว, Dezhu Zhao
metadata.dc.contributor.advisor: ชิดชไม วิสุตกุล
Keywords: ภาษาจีนกลาง -- การออกเสียง;ภาษาจีนกลาง -- ตัวสะกด;ภาษาจีน -- การออกเสียง;ภาษาจีน -- การศึกษาและการสอน (มัธยมศึกษา) -- วิจัย
Issue Date: 2563
Publisher: มหาวิทยาลัยรังสิต
Abstract: งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบความสามารถในการอ่านออกเสียงพินอินของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 4 ระหว่างกลุ่มที่ใช้วิธีการสอนแบบสาธิตกับกลุ่มที่ใช้วิธีการสอนแบบปกติ 2) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 4 ที่มีต่อการเรียนด้วยวิธีการสอนแบบสาธิต กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 4 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2562 โรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร แผนกศิลป์ –คำนวณ จำนวน 2 ห้องเรียน ห้องเรียนละ 45 คน รวม 90 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multistage sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) แผนจัดการเรียนการรู้ เรื่อง การออกเสียงพินอินที่มี j q x zh ch sh z c s ประสมอยู่จำนวน 3 แผน 2) แบบทดสอบวัดความสามารถการอ่านออกเสียงพินอินที่มี j q x zh ch sh z c s ประสมอยู่ จำนวน 36 คำ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนต่อการเรียนด้วยวิธีการสอนแบบสาธิต การวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ โดยการหาคำนวณค่ามัชฌิมเลขคณิต ค่าเฉลี่ย (x̄) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) ทดสอบค่าที (t-test) ผลการวิจัยพบว่า 1) นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนการสอนโดยวิธีการสอนแบบ สาธิต มีความสามารถในการอ่านออกเสียงพินอินที่มี j q x zh ch sh z c s ประสมอยู่ สูงกว่านักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนการสอนโดยวิธีการสอนแบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 2) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/4 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยวิธีการสอนแบบสาธิตอยู่ระดับมากที่สุด (x̄ = 4.82)
metadata.dc.description.other-abstract: The research was aimed to 1) compare the PinYin pronunciation ability among grade 10 students between those in the demonstration teaching method and those in ordinary teaching methods and 2) explore the their satisfaction toward learning through the demonstration teaching method. The samples were a total of 90 students from two classrooms, 45 students each, the number of which was obtained through multistage sampling. The samples were students in Arts-Math Program at a school in Bangkok studying in semester of the academic year 2019. Research instruments consisted of: 1) three learning management plans on the pronunciation of PinYin letters including j, q, x, zh, ch, sh, z, c, and s, 2) a pronunciation ability test with 36 words containing those PinYin letters, and 3) a questionnaire on learners’ satisfaction toward the demonstration teaching method. Data were analyzed using statistics including arithmetic mean (x̄), standard deviation (S.D), and t-test. The results revealed that 1) The samples treated with the demonstration teaching method had greater ability in pronouncing PinYin letters than those in the ordinary teaching method with a statistical significance level of .05. 2) Students’ satisfaction toward the demonstration teaching method was at a highest level (x̄ = 4.82)
Description: วิทยานิพนธ์ (ศษ.ม. (หลักสูตรและการสอน)) -- มหาวิทยาลัยรังสิต, 2563
metadata.dc.description.degree-name: ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต
metadata.dc.description.degree-level: ปริญญาโท
metadata.dc.contributor.degree-discipline: หลักสูตรและการสอน
URI: https://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/527
metadata.dc.type: Thesis
Appears in Collections:EDU-CI-M-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Dezhu Zhao.pdf2.63 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.