Please use this identifier to cite or link to this item: https://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/649
Title: ปัจจัยที่ส่งผลต่อการผิดนัดชำระหนี้ : กรณีศึกษาในกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจ SMEsในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
Other Titles: Factors impacting loan defaults : the case of Thai SME loans in Bangkok Metropolitan region
Authors: วิชญ์พล คุ้มกัน
metadata.dc.contributor.advisor: กุลบุตร โกเมนกุล
Keywords: สินเชื่อ -- การจัดการ -- ไทย;หนี้ -- ไทย -- กรุงเทพฯ -- การศึกษาเฉพาะกรณี;ธุรกิจขนาดย่อม -- การเงิน
Issue Date: 2562
Publisher: มหาวิทยาลัยรังสิต
Abstract: งานวิจัยชิ้นนี้ได้ได้จัดทำ ขึ้นเพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการผิดนัดชำ ระหนี้และคุณลักษณะ ของผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่เป็นลูกหนี้ปกติ มี สินเชื่อธุรกิจ ประเภท เงินกู้ยืมระยะยาว และวงเงินเบิกเกินบัญชี โดยวงเงินรวมกัน หรืออย่างใดอย่าง หนึ่ง ตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป แต่ไม่เกินสิบล้านบาท และไม่รวมธุรกิจ SMEs ประเภทธุรกิจการเงิน ข้อมูลที่ใช้ในการวิจัยเป็นข้อมูลทุติยภูมิของธนาคารพาณิชย์ แบ่งเป็น 2 ช่วงคือ ช่วงวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2556 ถึง วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เป็นข้อมูลพื้นฐานของบริษัท ข้อมูลทางการเงิน และข้อมูลด้านสินเชื่อ และช่วงวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2557 ถึง วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เป็นข้อมูลการผิดนัดชำระหนี้ ผู้วิจัยกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น โดยจำแนกกลุ่มตัวอย่างเป็น 6 ภาค แต่ละภาคมีพื้นที่เท่า ๆ กัน และใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย เพื่อคัดเลือกกลุ่มตัวอย่าง ได้จำ นวน592 ราย และบันทึกข้อมูลของแต่ละรายย้อนหลัง 3 ปี แบบภาคตัดขวาง จึงทำ ให้ขนาดกลุ่มตัวอย่างรวมเป็น 1,776 ราย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ สถิติเชิงพรรณนา และวิธี Panel Logit Regression ด้วยแบบจำลองโลจิตทั้งหมด 6 สมการ ผลการวิจัย พบว่า ประมาณร้อยละ 17 ของผู้ประกอบธุรกิจSMEsในกลุ่มตัวอย่างมีการผิดนัดชำระหนี้ โดยกลุ่มลูกหนี้เงินกู้ยืมระยะยาวมีอัตราการผิดนัดชำระหนี้มากกว่ากลุ่มลูกหนี้วงเงินเบิกเกินบัญชี นอกจากนี้ ยังพบว่า อายุของบริษัท และวงเงินกู้ (ขนาดของสินเชื่อ) ส่งผลในทิศทางตรงกันข้ามต่อโอกาสผิดนัดชำระหนี้ของผู้ประกอบธุรกิจ SMEs ดังนั้นผลการวิจัยนี้ จึงสามารถไปประยุกต์ใช้เป็นแนวทางและหลักเกณฑ์ในการอำนวยสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการธุรกิจภาค SMEs ได้อย่างเหมาะสมต่อไป
metadata.dc.description.other-abstract: This paper was undertaken to investigate factors impacting on loan defaults and characters of Thai SME enterprises in Bangkok and metropolitan who were debtors in the normal criteria, and had credits for business in types of long term loan and overdraft which total credit limit or either one or the other was between 200 – 10,000 thousand baht, and excluded financial business type. The study collected secondary data from a commercial bank which separated into 2 periods as follows (1) datasets from January 1st, 2013 to December 31st, 2015 included company background, financial and credit information and (2) dataset from January 1st, 2014 to December 31st, 2016 was loan default information. For sample used in this study was chosen by Stratified Random Sampling method by classifying into 6 sectors that each area had equal space, and then used Simple Random Sampling method in order to choose 592 companies and collected 3-year panel data of each sample so the sample size became 1,776 samples. Using descriptive statistic and Panel Logit Regression with 6 logit models to analysis, our results show that about 17% of the entire sample has bank loan defaults. We find that SMEs default on long-term loans at a higher rate than SMEs with overdraft (OD). Additionally, size of bank loan (credit limit) and enterprise’s age are negatively related to the likelihood of bank loan defaults
Description: วิทยานิพนธ์ (บธ.ม. (บริหารธุรกิจ)) -- มหาวิทยาลัยรังสิต, 2562
metadata.dc.description.degree-name: บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต
metadata.dc.description.degree-level: ปริญญาโท
metadata.dc.contributor.degree-discipline: บริหารธุรกิจ
URI: https://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/649
metadata.dc.type: Thesis
Appears in Collections:BA-BA-M-Thesis

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Witchapol Kumgun.pdf2.84 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.