Please use this identifier to cite or link to this item:
https://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/704| Title: | การรับรู้การสื่อสารทางการตลาดผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กที่มีผลต่อความภักดีของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางลอรีอัล |
| Other Titles: | Marketing communication awareness via facebook that affects Loreal cosmetic product brand loyalty |
| Authors: | สุมิตรา ดีธรรม |
| metadata.dc.contributor.advisor: | สุมาลี สว่าง |
| Keywords: | เครือข่ายสังคมแบบออนไลน์ -- วิจัย;การสื่อสารทางการตลาด -- วิจัย;ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง;การตลาดอินเตอร์เน็ต -- วิจัย |
| Issue Date: | 2561 |
| Publisher: | มหาวิทยาลัยรังสิต |
| Abstract: | การวิจัยเรื่อง การรับรู้การสื่อสารทางการตลาดผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กที่มีผล ต่อความภักดีของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางลอรีอัล ในการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยคือ 1) เพื่อศึกษาลกั ษณะของปัจจยั ส่วนบุคคล ผา่ นเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กที่มีผลต่อความภักดีของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางลอรีอัล 2) เพื่อศึกษารูปแบบการดำเนินชีวิต (Lifestyle) ในการใช้ อินเตอร์เน็ตและเฟซบุ๊ก ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กที่มีผลต่อความภักดีของผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอางลอรีอัล 3) เพื่อศึกษาการรับรู้ต่อการสื่อสารทางการตลาด ผ่านทางเครือข่ายสังคม ออนไลน์เฟซบุ๊กของเครื่องสำอางลอรีอัล 4) เพื่อศึกษาความภักดีต่อตราสินค้าของผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอางลอรีอัล5) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบปัจจัยส่วนบุคคลกับการรับรู้ต่อการสื่อสาร ผ่านทาง เครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กของเครื่องสำอางลอรีอัล 6) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของการสื่อสาร ทางการตลาด ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กที่มีอิทธิพลต่อความภักดีต่อตราสินค้าของ ผลิตภณัฑ์เครื่องสำอางลอรีอัลกลุ่มตัวอย่างของการวิจัยครั้งนี้ กำหนดเป็นผู้บริโภคเพศหญิงที่เป็นสมาชิกแฟนเพจของเครื่องสำอางลอรีอัลจำ นวน 400 คน ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถาม โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปคอมพิวเตอร์ในการคาํ นวณค่าสถิติได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานทางสถิติด้วยOne -wayANOVA และใชส้ ถิติการวเิ คราะห์สมการถดถอยสหสัมพนั ธ์ (Multiple Regression Analysis) ผลการศึกษา พบว่า ผูบ้ ริโภคเพศหญิงส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 27-32 ปี มีสถานภาพโสดระดับการศึกษาปริญญาตรี มีอาชีพเป็นพนักงานบริษัทเอกชน มีรายได้ต่อเดือนระหว่าง15,001-20,000 บาท โดยรูปแบบการดาํ เนินชีวิต (Lifestyle) พบว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่มีความถี่ในการเข้าใช้อินเตอร์เน็ตเฉลี่ย 10 ครั้งขึ้นไปต่อสัปดาห์ และมีความถี่ในการเข้าใช้เฟซบุ๊กเฉลี่ย 10 ครั้งขึ้นไปต่อสัปดาห์ ระยะเวลาที่ใช้อินเตอร์เน็ตเฉลี่ย 15-30 นาทีและระยะเวลาที่ใช้เฟซบุ๊กเฉลี่ย15-30 นาที ส่วนใหญ่สนใจเฟซบุ๊กแฟนเพจของตราสินค้า และบริการ ประเภทสุขภาพและความงามมีเหตุผลที่เข้าเป็นสมาชิกเฟซบุ๊กแฟนเพจ เพื่อค้นหารายละเอียดเกี่ยวกับสินค้า และบริการ ที่สำคัญมีระดับการรับรู้การสื่อสารทางการตลาดผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก ที่มีผลต่อความภกักดีของผลิตภณัฑ์เครื่องสำอางลอรีอัล พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญในด้านการโฆษณามากที่สุด รองลงมาคือด้านการประชาสัมพันธ์ ด้านการให้การสนับสนุนด้านการสื่อสารโดยใช้พนักงานและสุดท้ายด้าน การส่งเสริมการขาย สำหรับความภักดีต่อตราสินคา้พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญในด้านการมีความผูกพันระยะยาวมากที่สุด รองลงมาคือด้านการตัดสินใจซื้อซ้ำ และสุดท้ายด้านการแนะนำต่อ ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่าผู้บริโภคเพศหญิงที่มีสถานภาพต่างกัน มีการรับรู้การสื่อสารทางการตลาดผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก ที่มีผลต่อความภักดีของผลิตภณัฑ์เครื่องสำอางลอรีอัลโดยรวมแตกต่างกันและผลการทดสอบสมมติฐานโดยการใช้สถิติการวิเคราะห์สมการถดถอยสหสัมพันกันพบว่า ด้านการโฆษณา (β = .206) และด้านการสื่อสารโดยใช้พนักงาน (β = .105) มีอิทธิพลต่อความภักดีต่อตราสินคา้ ของผลิตภณัฑ์เครื่องสำอางลอรีอัล |
| metadata.dc.description.other-abstract: | The purposes of this research are 1) to study via Facebook the characteristic of the individual’s factor of the female group that affects Loreal Cosmetic Product Brand Loyalty 2) to study via Facebook the internet and Facebook usage life style of the female group that affects Loreal Cosmetic Product Brand Loyalty 3) to study the female group’s opinion regarding integrated marketing communication via Facebook of Loreal cosmetic product in Thailand 4) to study the brand loyalty of Loreal cosmetic product 5) to comparative study the female group’s opinion regards Loreal cosmetic product’s integrated marketing communication via Facebook in Thailand and 6) to study the effects of Loreal cosmetic Product marketing communication via Facebook on brand loyalty. The study group for this research is the 400 Fanpage subscribers of Loreal cosmetic product. The study employs the questionnaire as a tool to collect information, and analyze the information from these questionnaires. The study utilizes computer program to calculate the statistics such as percentage, means, standard deviation and test the statistic hypothesis using One - way ANOVA and Multiple Regression Analysis. The research shows that most single female of age 27-32 years old with bachelor degree education and work as a private company officer with income 15,001-20,000 Baht whose lifestyle involves frequent usage of internet and Facebook that most female who accesses to internet and Facebook more than 10 times a week and use fifteen to thirty minutes are interested in Facebook Fanpage of cosmetic products and has certain reason to subscribe to a Fanpage in order to find out more about cosmetic products and services. Importantly, the research found that the opinion of this group’s regard toward Loreal cosmetic product integrated marketing communication is in the medium level overall. Most of the candidates pay most attention toward advertisement, and secondly to promotion and communication and support service through sale agent. Regarding the brand loyalty, the research has found that Loreal cosmetic product is also ranked in the middle overall. Most of the important points are given to long-term brand relationship, secondly to decision making in continuing to purchase the product and recommending. The hypothesis testing shows that female with different conditions tend to have different regards toward Loreal cosmetic product integrated market communication. The Multiple Regression Analysis shows that for advertisement (β = .206), and Personal Selling (β = .105) and affects Loreal cosmetic products brand loyalty. |
| Description: | วิทยานิพนธ์ (บธ.ม. (บริหารธุรกิจ)) -- มหาวิทยาลัยรังสิต, 2561 |
| metadata.dc.description.degree-name: | บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต |
| metadata.dc.description.degree-level: | ปริญญาโท |
| metadata.dc.contributor.degree-discipline: | บริหารธุรกิจ |
| URI: | https://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/704 |
| metadata.dc.type: | Thesis |
| Appears in Collections: | BA-BA-M-Thesis |
Files in This Item:
| File | Description | Size | Format | |
|---|---|---|---|---|
| Sumitra Deethum.pdf | 2.72 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.