การสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจโดยใช้กิจกรรมด้านโลจิสติกส์ธุรกิจค้าปลีกเครื่องสำอางค์

Abstract

จากการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคล ลักษณะขององค์กรของการจัดการโลจิสติกส์ 2) เพื่อศึกษาระดับประสิทธิภาพ ของการจัดการโลจิสติกส์ที่มีผลต่อปัจจัยส่วนบุคคลและ 3) เพื่อศึกษาระดับความได้เปรียบทางการแข่งขันของธุรกิจเครื่องสำอางในกรุงเทพมหานคร ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้ประกอบการหน้าร้าน และผู้ประกอบการออนไลน์ จำนวนอย่างละ 400 ชุด โดยเครื่องมือในการวิจัย ได้แก่ การใช้แบบสอบถามในการเก็บข้อมูลและใช้โปรแกรม SPSS ใช้การวิเคราะห์ด้วยวิธีการหาความสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson Correlation) ผลการวิจัย กิจกรรมด้านโลจิสติกส์ในภาพรวมมีความสัมพันธ์กับความได้เปรียบทางการแข่งขันหน้าร้าน และออนไลน์ พบว่า กิจกรรมด้านการพยากรณ์ กิจกรรมด้านการบริการลูกค้า กิจกรรมด้านการบริหารสินค้าคงคลัง กิจกรรมด้านการจัดซื้อ กิจกรรมด้านการบริหารคลังสินค้า กิจกรรมด้านการติดต่อสื่อสารทางด้านโลจิสติกส์ มีความสัมพันธ์กับความได้เปรียบทางการแข่งขันด้านต้นทุน ด้านความพึงพอใจ และด้านความแตกต่าง มีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันในระดับปานกลาง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้