Please use this identifier to cite or link to this item:
https://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/977
Title: | วิเคราะห์เปรียบเทียบการอิมโพรไวส์ของสก็อตต์ ลาฟาโร และมาร์ค จอห์นสันในบทเพลงนาร์ดิส ของไมล์ส เดวิส |
Other Titles: | A comparative Analysis of Scott Lafaro’s and Marc Johnson’s improvisation On Miles Davis’s Nardis |
Authors: | ศุภวุฒิ พิมพ์นนท์ |
metadata.dc.contributor.advisor: | เด่น อยู่ประเสริฐ |
Keywords: | ลาฟาโร, สก็อตต์;จอห์นสัน, มาร์ค;การอิมโพรไวส์ -- วิจัย;เพลงบรรเลง |
Issue Date: | 2560 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยรังสิต |
Abstract: | งานวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์เปรียบเทียบการอิมโพรไวส์ของสก็อตต์ ลาฟาโร และมาร์ค จอห์นสัน จากบทเพลงนาร์ดิส ประพันธ์โดย ไมล์ส เดวิส โดยมีขอบเขตการวิเคราะห์ในประเด็นต่างๆ ได้แก่ ลักษณะจังหวะ โครงสร้างแนวทานอง เสียงประสาน บันไดเสียง เทคนิคการบรรเลง และอื่นๆ จากการวิจัย ทางด้านลักษณะจังหวะที่ปรากฎในโครงสร้างแนวทานองการอิมโพรไวส์ พบว่า นักบรรเลงเบสทั้ง 2 ท่าน ใช้ลักษณะจังหวะที่มีความหลากหลายในการพัฒนาประโยคเพลง โดยองค์ประกอบสาคัญ ได้พบการใช้รูปแบบโน้ตเขบ็ตหนึ่งชั้น และโน้ตสามพยางค์ ที่เป็นปัจจัยหลักของการพัฒนาโมทีฟ และยังส่งผลทาให้การเคลื่อนแนวทานองเกิดแนวคิดโพลีริธึม รวมไปถึงการคลาดเคลื่อนของอัตราจังหวะ ซึ่งเป็นวิธีการขยายขอบเขตการบรรเลง รวมไปถึงเป็นวัตถุดิบใหม่ๆ ที่สามารถนามาพัฒนากับโครงสร้างแนวทานอง โดยสก็อตต์ ลาฟาโร ได้นาลักษณะจังหวะต่างๆ มาพัฒนากับโครงสร้างแนวทานอง ที่มีองค์ประกอบของบันไดเสียง และการบรรเลงอาร์เปโจเคลื่อนทานองแบบเรียงเสียง พร้อมกับการใช้ขั้นคู่เสียงมาสร้างสีสันให้กับแนวทานอง ในส่วนของมาร์ค จอห์นสัน ได้ปรากฎการใช้ลักษณะจังหวะหลากหลายผสมผสานกับโครงสร้างบันไดเสียง และอาร์เปโจด้วยการเคลื่อนทานองด้วยขั้นคู่เสียง ทางด้านเสียงประสาน นักบรรเลงเบสทั้ง 2 ท่าน มีการใช้บันไดเสียงที่มีความสัมพันธ์ กับการดาเนินคอร์ด และบันไดเสียงอื่นๆ เพื่อให้เกิดโน้ตส่วนขยายคอร์ด รวมไปถึงโครงสร้างเสียงประสานอื่นๆ ทางด้านเทคนิคการบรรเลงของสก็อตต์ ลาฟาโรและมาร์ค จอห์นสัน มีการใช้เทคนิคโน้ตฮาร์โมนิกส์เพื่อสร้างสีสันให้กับแนวทานอง ทั้งนี้มาร์คจอห์นสัน มีการใช้เทคนิคการบรรเลงที่หลากหลายกว่าสก็อตต์ ลาฟาโร และรวมไปถึงพบการ อิมโพรไวส์ด้วยแนวคิดการแปรประดับ จากทานองหลักของบทเพลง |
metadata.dc.description.other-abstract: | This analysis, focused on a comparative of Scott Lafaro’s and Marc Johnson’s improvisation on Nardis composed by Miles Davis. Researcher focused on Rhythm, Melodic Structure, Harmony, Scales Bass Technic and others musical element. From an analysis, found that both bassists use varieties of rhythmic to develop their phasing, mostly on Eight-Note and Triplet. to develop their motifs, they create a Polyrhythm and Rhythmic Displacement to expand more possible ways to improvise. Scott Lafaro uses patterns of rhythmic scales and arpeggio with a chord changes to make his improvisation line to be linear pattern while Marc Johnson use the same element but focused more on intervals. In part of harmony, both bassists use varieties of scales to be a source of their improvisation which can create an Expansion on an improvisation’s line. On bass’s Technic, both bassists use a Harmonic Technic to color their lines. Marc Johnson have more variation on Technic Than Scott Lafaro moreover, Ornamenting variation from a melody also found on Marc 's improvisation line |
Description: | วิทยานิพนธ์ (ดศ.ม. (ดนตรี)) -- มหาวิทยาลัยรังสิต, 2560 |
metadata.dc.description.degree-name: | ดุริยางคศาสตรมหาบัณฑิต |
metadata.dc.description.degree-level: | ปริญญาโท |
metadata.dc.contributor.degree-discipline: | ดนตรี |
URI: | https://rsuir-library.rsu.ac.th/handle/123456789/977 |
metadata.dc.type: | Thesis |
Appears in Collections: | Ms-Music-M-Thesis |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Suphawut Phimnon.pdf | 7.33 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.